นี่คือการปะทะกันของสองทีมที่ฟอร์ม “ตรงข้าม” กันอย่างสิ้นเชิง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 4 ในฐานะทีมที่ยังไม่แพ้ใคร เพิ่งโชว์ฟอร์มคุมเกมสุดเหนือชั้นบุกชนะ บียาร์เรอัล 2-0 ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจไม่หวือหวา แต่เน้นความสมดุลและ “ความแน่นอน” ในการเข้ารอบ
สภาพทีมของซิตี้สมบูรณ์ 100% ขาดเพียง คาลวิน ฟิลลิปส์ ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ทำให้ เป๊ป สามารถหมุนเวียนนักเตะได้ตามใจชอบ โดย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ยิงใน ชปล. มา 4 นัดติดต่อกัน พร้อมลงเจอทีมเก่า
ในขณะที่ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ของกุนซือ นิโก้ โควัช กำลังอยู่ในช่วง “โกลาหลแต่เร้าใจ” หลังจากเสมอ ยูเวนตุส 4-4 พวกเขาก็กดไปอีก 2 นัดรวด (4-1, 4-2) พวกเขาบุกมาแมนเชสเตอร์ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม และกำลังล่าสถิติเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิง 4 ประตูขึ้นไป 4 นัดติดต่อกันในถ้วยนี้
วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2025 | 03:00 น. (เช้ามืดวันพฤหัสฯ – เวลาไทย) สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม
📋 คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ระบบ 4-1-4-1)
- ผู้รักษาประตู: จานลุยจิ ดอนนารุมม่า
- กองหลัง: มาเธอุส นูเนส, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล
- กองกลาง (รับ): นิโก้ กอนซาเลซ
- กองกลาง (รุก): ซาวินโญ่, ริโก้ ลูอิส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เฌเรมี่ โดกู
- กองหน้า: เออร์ลิง ฮาแลนด์
(วิเคราะห์: เป๊ป ใช้ชุดที่เน้นการคุมเกมแดนกลาง (กอนซาเลซ, ลูอิส, ซิลวา) แต่ใช้ความเร็วสุดขั้วจากริมเส้น (โดกู, ซาวินโญ่) เพื่อสนับสนุน ฮาแลนด์)
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (ระบบ 3-4-2-1)
- ผู้รักษาประตู: เกรกอร์ โคเบล
- กองหลัง: วัลเดมาร์ อันทอน, นิโค ชล็อตเตอร์เบ็ค, รามี่ เบนเซไบนี่
- กองกลาง: ยาน คูโต้, เฟลิกซ์ เอ็นเมช่า, โจบ เบลลิงแฮม, ดาเนียล สเวนส์สัน
- ตัวรุก: มักซิมิเลียน ไบเออร์, ยูเลี่ยน บรันด์ท
- กองหน้า: แซร์อู กีราสซี่
(วิเคราะห์: ดอร์ทมุนด์มาในระบบที่พร้อมเล่นเกมสวนกลับเร็ว ใช้ โจบ เบลลิงแฮม (น้องชาย) คุมแดนกลาง และมี 3 ประสาน (ไบเออร์, บรันด์ท, กีราสซี่) ที่อันตรายสุดๆ)
อัตราต่อรอง
ซิตี้ไม่แพ้ใครในบ้านเกม ชปล. รอบแบ่งกลุ่ม/ลีก มา 22 นัดติด (ตั้งแต่ปี 2018) ทำให้พวกเขาเป็นต่ออย่างมาก แต่ดอร์ทมุนด์ก็มีเกมรุกที่ยิงแหลก (อ้างอิงราคาเฉลี่ยจากแหล่งข้อมูล)
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ: 1.45
- เสมอ: 4.80
- โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ชนะ: 6.50
- เดิมพันน่าสนใจ: ทั้งสองทีมยิง (BTTS: Yes), สกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ประตู
บทวิเคราะห์และคาดการณ์ผลการแข่งขัน
นี่คือการต่อสู้ระหว่าง “ความแม่นยำ” (ซิตี้) ปะทะ “ความบ้าคลั่ง” (ดอร์ทมุนด์)
ซิตี้ คือเครื่องจักรที่คุมจังหวะเกมได้ดีที่สุดในยุโรป พวกเขาจะครองบอลและค่อยๆ นวดหาช่อง แต่ปีนี้พวกเขามีมิติเกมสวนกลับที่น่ากลัวจาก โดกู และ ซาวินโญ่ และมี เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่พร้อมจบสกอร์ทีมเก่า (ที่ เอติฮัด เขาเคยยิงประตูชัยใส่ ดอร์ทมุนด์ มาแล้วในปี 2022)
ในทางกลับกัน ดอร์ทมุนด์ คือทีมที่เล่น “เกมโกลาหลแนวตั้ง” พวกเขาใช้เวลาโจมตีเฉลี่ยเพียง 8.2 วินาที และมีอัตราการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูสูงที่สุดใน ชปล. (37.5%) โดยมี กีราสซี่ ที่กำลังเฉียบคม และ บรันด์ท ที่คอยหาพื้นที่อย่างชาญฉลาด
คำถามคือ เกมบุกที่ดุดันของ ดอร์ทมุนด์ จะใช้ได้ผลหรือไม่ใน เอติฮัด? สถิติบอกว่า ดอร์ทมุนด์ มักจะ “แผ่วปลาย” เมื่อเจอ ซิตี้ (เคยโดนยิงท้ายเกมแพ้ 2 ครั้ง) และ เป๊ป ก็ไม่แพ้ ดอร์ทมุนด์ มา 10 นัดติดแล้ว
คาดว่า ดอร์ทมุนด์ จะบุกกดดันสูงในชวงแรก แต่สุดท้ายแล้ว ซิตี้ ที่นิ่งกว่าและควบคุมจังหวะได้ดีกว่า จะค่อยๆ หาช่องโจมตี และอาศัยความเด็ดขาดของ ฮาแลนด์ เบียดเอาชนะไปได้ในเกมที่ยิงกันสนุก
คาดการณ์ผลสกอร์: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 – 2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์










