จอห์น โอบี มิเกล ได้ออกมาวิจารณ์อย่างหนักถึงการเล่นเกมรับของ โทซิน อดาราไบโอโย่ ในเกมที่ เชลซี พ่ายแพ้ต่อ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 และตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ที่เปลี่ยนเอาผู้เล่น ‘ที่ดีที่สุด’ สองคนอย่าง เจา เปโดร และ เปโดร เนโต้ ออกจากสนาม
“สิงห์บลูส์” ออกสตาร์ทได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงประตูแรกให้กับสโมสรขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่สี่ แต่ทีมเยือนตามตีเสมอได้จาก วิลสัน อิซิดอร์ ก่อนจะคว้าสามแต้มในช่วงท้ายเกม เมื่อ เชมส์ดีน ตาลบี ยิงเข้ามุมประตูของ โรเบิร์ต ซานเชซ สร้างความดีใจให้กับแฟนบอลทีมเยือน
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้สถิติชนะรวดสี่นัดของเชลซีสิ้นสุดลง และทำให้สโมสรหล่นไปอยู่อันดับที่เก้า ตามหลังจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอลถึง 8 คะแนน หลังจากผ่านไป 9 นัด
เชลซีจะกระหายที่จะกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ เมื่อพวกเขากลับมาลงสนามในศึก คาราบาว คัพ รอบที่สี่ ที่จะบุกไปเยือนวูล์ฟส์ในคืนวันพุธนี้ หลังจากนั้น ลูกทีมของมาเรสก้าจะต้องเผชิญหน้ากับเกมลอนดอนดาร์บี้ที่มีความกดดันสูงที่สนามท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม ในสุดสัปดาห์หน้า
จวกเกมรับ ‘แย่สุด ๆ’ และเปรียบเทียบกับอาร์เซนอล
“นี่คือสามแต้มที่หลุดมือไปอย่างมหาศาล มหาศาลมาก ๆ” โอบี มิเกล อดีตกองกลางเชลซีกล่าวในพอดแคสต์ The Obi One Podcast
“วิธีที่เราเสียประตูสุดท้ายนั้นเป็นการเล่นเกมรับที่แย่มากอย่างที่สุด”
“ผมเคยพูดมาหลายครั้งแล้วว่า เราไม่มีกองหลังที่ดีพอ เซ็นเตอร์แบ็กที่เรามีตอนนี้ เราไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยเซ็นเตอร์แบ็กเหล่านี้ได้”
“คุณเห็นได้จาก อาร์เซนอล ว่า กองหลังคือผู้ที่ทำให้คุณได้แชมป์ ใช่ กองหน้าทำให้คุณชนะเกม แต่กองหลังทำให้คุณได้แชมป์ ได้ลีก และตอนนี้อาร์เซนอลเสียไปเพียงสามประตูจากเก้าเกม”
“เราพูดกันหลายครั้งแล้วว่า ถ้ามีใครสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ได้ ก็ต้องเป็นอาร์เซนอล พวกเขามีทีมที่ดีที่สุดและขุมกำลังที่ดีที่สุด”
ตั้งคำถามการเปลี่ยนตัวของผู้จัดการทีม
โอบี มิเกล ยังคงสงสัยกับการตัดสินใจของมาเรสก้าที่เปลี่ยนตัว เจา เปโดร และ เปโดร เนโต้ ออกไป ในขณะที่เชลซีกำลังไล่ล่าประตูชัยในช่วงท้ายเกม
“ผมคิดว่าผู้จัดการทีมคงจะผิดหวังมากกับวิธีที่เราแพ้เกมนี้” เขาเสริม
“ผมไม่เคยวิจารณ์ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผมเป็นแฟนตัวยงของเขา แต่ผมแค่คิดว่าตอนที่เรากำลังไล่ล่าเกมนั้น เพื่อจะชนะเกมที่สกอร์ 1-1 ในบ้าน… คุณไม่สามารถเอาผู้เล่นที่ดีที่สุดของคุณออกได้”
“คุณเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดของคุณออกไม่ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะเล่นได้ไม่ดีนักก็ตาม เจา เปโดร และ เปโดร เนโต้ พวกเขาอาจจะเล่นได้ไม่ค่อยดี แต่คุณต้องปล่อยให้ผู้เล่นเหล่านั้นอยู่ในสนาม และพวกเขาจะหาทางสร้างโอกาส พวกเขาจะหาทางชนะเกมนั้นได้เอง”
“ผมแค่คิดว่าการที่เขาเปลี่ยน เจา เปโดร และ เปโดร เนโต้ ออกไป หลังจากนั้นเกมมันก็ แผ่วไปเลย แผ่วไปอย่างสิ้นเชิง ไม่มีอะไรเลย เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
ตามที่โอบี มิเกลกล่าว กองหน้าสามคนที่มาเรสก้าเหลือไว้ในสนามนั้นยัง ขาดประสบการณ์ มากเกินไปสำหรับสถานการณ์ที่กดดันสูงเช่นนี้
“ผมชอบผู้เล่นที่เขาเปลี่ยนลงมาในสนามนะ เขาเหลือ เอสเตเวา ไว้ และเปลี่ยนเอา เจมี่ กิตเทนส์ กับ ไทรีค จอร์จ ลงมาด้วย” อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกสองสมัยกล่าวต่อ
“แต่เมื่อคุณมองไปที่สามประสานในแดนหน้านั้น พวกเขายังเด็กมาก พวกเขาไม่สามารถทำให้คุณชนะในเกมแบบนั้นได้ ที่คุณกำลังไล่ตามเกม และเกมก็ตึงเครียด คุณกำลังพยายามจะชนะ กำลังพยายามจะสร้างสรรค์อะไรบางอย่าง แฟน ๆ ก็เริ่มหงุดหงิด”
“เมื่อคุณเปลี่ยนผู้เล่นเหล่านั้นออกไป และมีผู้เล่นที่ขาดประสบการณ์จำนวนมากเข้ามาในเกม ผมคิดว่ามันจะใช้เวลาสักหน่อยในการปรับตัวเข้าสู่เกม”
“ให้ส่งพวกเขาลงมาตอนที่เรากำลังจะชนะเกม ตอนที่ความกดดันน้อยกว่า อย่าส่งผู้เล่นอายุน้อยเหล่านั้นลงมาตอนที่เรากำลังไล่ตามเกมและเกมมันตึงเครียด”
การตำหนิโดยตรงต่อ อดาราไบโอโย่
โอบี มิเกล รู้สึกว่า อดาราไบโอโย่ เล่นเกมรับแบบ ตั้งรับมากเกินไป สำหรับประตูชัยในช่วงท้ายเกมของซันเดอร์แลนด์ โดยปล่อยให้ ไบรอัน บร็อบบีย์ มี ‘เวลาและพื้นที่’ มากเกินพอที่จะจ่ายให้ ตาลบี ที่ขอบเขตโทษ
“การเล่นเกมรับมันแย่! ฟังนะ ผมไม่ชอบชี้เป้า” อดีตนักเตะทีมชาติไนจีเรียกล่าวต่อ
“โทซิน คุณกำลังทำอะไรอยู่?! ห้าหรือหกวินาที เขาควบคุมบอลได้ กองหน้าคนนั้น และคุณกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา”
“ใช่ โทซิน ใช่ [เทรโวห์] ชาโลบาห์ ด้วย ใช่ ชาโลบาห์กำลังมองดูคนที่เติมเข้ากรอบเขตโทษมาช้า หรือเขากำลังพยายามคำนวณว่าคนนั้นจะมาจากไหนกันแน่?”
“แต่ผมแค่คิดว่าหนึ่งในนั้นควรจะทำอะไรบางอย่าง หนึ่งในนั้นควรจะเป็นฝ่ายรุกในการตั้งรับ พวกเขาควรจะเข้าหาผู้เล่นโดยตรงมากกว่าแค่รอ”
“เมื่อคุณทำอย่างนั้น คุณก็แค่ให้เวลาและพื้นที่กับคู่ต่อสู้ เขามีเวลาและพื้นที่ และสิ่งที่เขาต้องทำก็แค่จ่ายบอลเรียดไปให้คนที่เติมเข้ามา”
“การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็น่าผิดหวังกับวิธีที่เราเสียประตู”
