ตำนาน แมนฯ ยูไนเต็ด ลาออกจากงานกูรูทีวี เพื่อดูแลลูกชาย ออทิสติก ที่ไม่ใช้คำพูด

พอล สโคลส์ ตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่าเขาได้ยุติบทบาทการเป็นนักวิเคราะห์ทางโทรทัศน์ เพื่อมาดูแล ไอเดน ลูกชายวัย 20 ปี ที่เป็น ออทิสติก

สโคลส์ ซึ่งคว้า 25 ถ้วยรางวัลตลอดอาชีพค้าแข้ง 20 ปีกับยูไนเต็ด ก่อนจะเกษียณในปี 2013 เคยเป็นนักวิเคราะห์ประจำของ TNT Sports แต่ไม่ได้ปรากฏตัวในช่องดังกล่าวอีกเลยนับตั้งแต่รอบชิงชนะเลิศยูโรปา ลีก เมื่อเดือนพฤษภาคม

อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ซึ่งแยกทางกับ แคลร์ ภรรยาของเขาในปี 2020 หลังจากอยู่ด้วยกัน 27 ปี กล่าวว่าเขาได้ถอยออกมาจากงานโทรทัศน์เพื่อช่วยดูแลไอเดนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ออทิสติกชนิดไม่ใช้คำพูด (Non-verbal Autism) ตั้งแต่ยังเด็ก

“ผมเพิ่งตัดสินใจในปีนี้เพราะไอเดนครับ เห็นได้ชัดว่าด้วยความต้องการพิเศษของเขา งานทั้งหมดที่ผมทำตอนนี้จึงต้องเป็นไปตามกิจวัตรประจำวันของเขา เพราะเขามีกิจวัตรที่ค่อนข้างเคร่งครัดในทุก ๆ วัน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจว่าทุกสิ่งที่ผมจะทำ จะต้องหมุนรอบตัวไอเดน” สโคลส์กล่าวในรายการ The Overlap

“ผมกับแคลร์ไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไปแล้วครับ เราผลัดกันดูแลเขาคนละสามคืน และแม่ของแคลร์จะดูแลเขาในคืนวันศุกร์ แต่เราจะทำสิ่งเดียวกันกับเขาเสมอ”

“เขาไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไรหรือเวลาเท่าไหร่ แต่เขาจะรู้จากสิ่งที่เราทำว่าวันนี้เป็นวันอะไร ทุกวันอังคารผมไปรับเขาจากศูนย์ดูแลที่เขาไปอยู่สี่ชั่วโมง แล้วเราก็จะไปว่ายน้ำ เขาชอบว่ายน้ำมาก จากนั้นเราก็ซื้อพิซซ่าระหว่างทางกลับบ้าน วันพฤหัสบดีไปรับเขา เราไปหาอะไรกิน แล้วกลับบ้าน”

“วันอาทิตย์ ผมไปรับเขาจากบ้านของแคลร์ แล้วเราก็ไป Tesco ที่ซึ่งเขาจะซื้อช็อกโกแลตเต็มรถเข็น ดังนั้นเขาไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไรหรือเวลาเท่าไหร่ แต่เขารู้จากสิ่งที่เราทำว่าวันนี้เป็นวันอะไร เขาจะอายุ 21 ปีในเดือนธันวาคมนี้”

‘เข้าใจมากกว่าที่เราคิด’

“เขาไม่ใช้คำพูดครับ เมื่อผมบอกว่าเขาพูดไม่ได้ ผมคิดว่าเขาเข้าใจมากกว่าที่เราคิดมาก ถ้าคุณพูดอะไรบางอย่างกับเขา เขาจะเข้าใจ เขามีเสียง แต่มีเพียงคนใกล้ชิดเท่านั้นที่จะรู้ว่าเขากำลังพูดอะไร”

สโคลส์ไม่ค่อยเปิดเผยรายละเอียดชีวิตส่วนตัวในช่วงที่เขาเล่นฟุตบอลที่ยูไนเต็ด แต่ตอนนี้เขามักจะอัปเดตเรื่องราวกับไอเดนให้ผู้ติดตาม 1.1 ล้านคนบน Instagram ทราบเป็นประจำ

“ผมทำไปหนึ่งหรือสองครั้ง และผมก็แสดงแค่ช่วงเวลาดี ๆ เท่านั้น แน่นอนว่ามีบางส่วนที่ไม่ดีนัก และเป็นเพราะ การตอบสนองที่ผมได้รับจากผู้คน พ่อแม่ที่มีลูกเป็นแบบเดียวกัน นั่นคือเหตุผลที่ผมทำมันต่อไป” สโคลส์กล่าว

“ผมจะตอบกลับผู้คนใน Instagram เพราะมันเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขายังเด็ก เพราะมีการทำร้ายร่างกาย การทำร้ายผู้อื่น ผมใส่แค่เรื่องดี ๆ เท่านั้น”

“บางครั้งผมก็คิดจะโพสต์เรื่องที่เขาไม่ค่อยมีความสุข ซึ่งเขาอาจจะเข้าหาคุณ พยายามกัดคุณ ผมคิดถึงมันนะ แต่คิดว่านั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ”

ความยากลำบากในการเล่นฟุตบอลควบคู่ไปกับการดูแลลูก

สโคลส์ยังเปิดเผยว่าเขาต้องดิ้นรนเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอาชีพค้าแข้งกับการดูแลไอเดน

“คุณไม่มีวันได้หยุดพักจากมันเลย” สโคลส์กล่าว

“มันยากมากในสมัยนั้น มันรู้สึกเหมือนนานมาแล้ว ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะวินิจฉัยโรคนี้ได้จนกระทั่งเขาอายุสองขวบครึ่ง แต่คุณรู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก ซึ่งผมไม่เคยได้ยินชื่อโรคนี้มาก่อน ทันใดนั้นคุณก็เริ่มเห็นทุกสิ่ง ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นโดยรู้ตัวหรือไม่”

“ผมจำได้ว่าครั้งแรกหลังจากที่เราเล่นกับดาร์บี้ นอกบ้าน และผมไม่อยากอยู่ที่นั่นเลย ผมจำได้ว่าผู้จัดการทีม [เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน] ดร็อปผมในสัปดาห์ต่อมาด้วยซ้ำ และผมไม่ได้บอกใครเลย ผมลงเอยด้วยการบอกพวกเขาในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ผมคิดว่ามันค่อนข้างยาก”

สโคลส์ยังเล่าถึงช่วงเวลาเมื่อปีที่แล้วที่เขาไม่เข้าใจว่าไอเดนมีอาการปวดฟัน

“อย่าเข้าใจผมผิด เขาอาจจะมีความสุขมากอย่างไม่น่าเชื่อ และมันทำให้คุณมีความสุขและความยินดีอย่างมาก ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไปเสียทั้งหมด” สโคลส์กล่าว

“เมื่อปีที่แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งผมพาเขาไปเที่ยว และเขาก็เอาแตะจับปากและนอนไม่หลับ ผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมเลยทาเจลชาที่ริมฝีปากเขา เพราะเขาไม่สามารถบอกคุณได้ว่ามีอะไรผิดปกติหรือปวดตรงไหน และเขาจะไม่ยอมไปหาหมอฟัน เขาจะไม่นั่งนิ่ง ๆ ให้ใครเปิดปาก เขาทำไม่ได้”

“เราพาเขาไปหาหมอฟันสำหรับผู้มีความต้องการพิเศษ และพวกเขาต้องใช้ก๊าซเพื่อให้เขาหลับ เขาต้องอุดฟันและทำทุกอย่าง จากนั้นก็เข้ารับการผ่าตัดเพราะปากของเขาเละเทะไปหมด แต่เขาไม่สามารถบอกคุณได้ว่าเขากำลังเจ็บปวดแค่ไหน ลองจินตนาการดูว่าปวดฟันมา 8-9 เดือนแล้ว?”