ไมนู จะสามารถเป็นมิดฟิลด์ที่ อโมริม ต้องการได้หรือไม่?

หลังจากผ่านไปเจ็ดนัดในฤดูกาล พรีเมียร์ลีก ชื่อของ ค็อบบี้ ไมนู กลายเป็นนักเตะที่ถูกลืมของวงการฟุตบอลอังกฤษ

เขาไม่สามารถออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในลีกได้เลยแม้แต่นัดเดียวให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมีเวลาในสนามเพียงน้อยนิดที่ 113 นาที ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นช่วงเวลาที่น่าผิดหวัง สถานการณ์นี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ไมนูเคยถูกเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรรยายว่าเป็น ‘หัวใจและจิตวิญญาณ’ ของสโมสร หลังช่วยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 2024 แต่โอกาสของเขาในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลับมืดมนลง

การที่เขาไม่ได้ลงสนามยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าแดนกลางของยูไนเต็ดจะขาดความคิดสร้างสรรค์และไหวพริบ และเมื่อฟุตบอลโลกช่วงซัมเมอร์หน้าใกล้เข้ามา มิดฟิลด์รายนี้ได้พยายามหาทางย้ายออกไปแบบยืมตัวแล้ว ซึ่งความพยายามนี้จะ เกิดขึ้นอีกครั้งก่อนตลาดซื้อขายเดือนมกราคม

สำหรับไมนู นี่คือสถานการณ์ที่ไม่สามารถทนต่อไปได้ รูเบน อโมริม ได้เรียกร้องให้ดาวเตะวัย 20 ปีรายนี้ทำอะไรให้มากขึ้น โดยอธิบายว่าเขาต้องแข่งขันโดยตรงกับบรูโน่ แฟร์นันด์ส ซึ่งตอนนี้กัปตันทีมลงมาเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ที่ลึกขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาของเขากับอโมริมนั้นมีมาก่อนการตัดสินใจนั้น

ไมนูจะสู้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่?

หลังจากที่ไมนูกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ เอริก เทน ฮาก อิทธิพลของเขาก็ลดลงอย่างมากภายใต้ อโมริม ฤดูกาลที่แล้ว เขาเล่นครบ 90 นาทีเพียง 5 นัด จาก 18 นัดในลีกภายใต้โค้ชชาวโปรตุเกส และถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนนาทีที่ 75 ถึง 8 ครั้ง

พอล สโคลส์ ตำนานยูไนเต็ด เคยระบุว่านี่เป็นปัญหาเมื่อต้นปี และ ฟิล โจนส์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาก็กล่าวเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาว่าความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของไมนูในการ ‘วิ่งไปทั่วสนาม’ ตลอด 90 นาที เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาขาดเวลาในสนาม

เวส บราวน์ อดีตดาวเตะยูไนเต็ดอีกคนก็มีความคิดเห็นคล้ายกัน โดยกล่าวกับ Metro ว่า: “เขาจำเป็นต้องได้เล่นฟุตบอล ดังนั้นเขาคงผิดหวังมากกับฤดูกาลที่ผ่านมา”

“ผมแน่ใจว่าเขายังไม่ถึงขีดสุดในด้านความฟิต ช่วงอายุ 24, 25, 26 ปี คือช่วงที่คุณจะเข้าถึงขีดสุดทางร่างกายอย่างแท้จริง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีพรสวรรค์ และทุกคนก็เห็นว่าเขามีพรสวรรค์ ฟุตบอลโลกกำลังจะมาถึง และเขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดนั้น แต่เขาจำเป็นต้องได้เล่นฟุตบอล ผมไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้”

ไมนูจะปรับปรุง ‘เครื่องยนต์’ ของเขาในการฝึกซ้อมได้อย่างไร?

ไม่มีใครคาดหวังให้ไมนูจะเปลี่ยนตัวเองเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ความเยือกเย็น, การทนต่อการเพรสซิ่ง, และความสามารถในการรับและจ่ายบอลในพื้นที่แคบ ๆ คือคุณสมบัติที่ทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นอายุน้อยที่ดีที่สุดในตำแหน่งของเขา แต่เป็นที่ชัดเจนว่า อโมริมต้องการอะไรที่มากกว่านี้

สัญญาณทั้งหมดบ่งชี้ว่าไมนูกำลังพยายามปิดช่องว่างนี้ หลังจากถูกตัดชื่อออกจากทีมชาติอังกฤษ เขาก็ได้ไปฝึกซ้อมเสริมความแข็งแกร่งและสภาพร่างกายที่สเปน ซึ่งเป็นการส่งสารที่ชัดเจนถึงอโมริมว่าเขากำลังทำทุกวิถีทางเพื่อกลับมาเป็นตัวจริงให้ได้ ก่อนเกมที่จะบุกไปเยือนลิเวอร์พูลในวันอาทิตย์นี้

แต่หากเขาต้องการได้รับความไว้วางใจจากผู้จัดการทีม การทำงานหนักนั้นจะต้องเกิดขึ้นภายใต้สายตาของอโมริมที่แคร์ริงตัน ความขยันของไมนูไม่ค่อยถูกตั้งคำถาม แต่การมี ความอึดและพละกำลังในการวิ่ง เพื่อนำความขยันนั้นไปใช้อย่างถูกต้องอาจต้องอาศัยการทำงานเพิ่มเติม

ปัจจุบัน ทุกสถิติเกี่ยวกับผลผลิตทางกายภาพของผู้เล่นจะถูกบันทึกและตรวจสอบอย่างละเอียดในสนามฝึกซ้อมของพรีเมียร์ลีก เพื่อประเมินว่าผู้เล่นอยู่ในระดับใด และผลผลิตนั้นสามารถนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมของการแข่งขันจริงได้หรือไม่

สตีเฟน สมิธ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Kitman Labs ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์สมรรถนะและการป้องกันอาการบาดเจ็บ เชื่อว่าการพัฒนา ‘เครื่องยนต์’ ตามธรรมชาติของผู้เล่นนั้นสามารถทำได้

“คุณสามารถปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีนัยสำคัญ” สมิธกล่าว “โค้ชและสโมสรที่แตกต่างกันจะมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และนั่นจะนำไปสู่ความคาดหวังที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในแง่ของผลผลิตทางกายภาพของผู้เล่น… นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เราไม่เห็นผู้เล่นบางคนในสนาม เพราะทีมงานด้านฟิตเนสกำลังดำเนินการพัฒนาในส่วนนั้น”

เขายังอธิบายว่าสโมสรจะพิจารณาความต้องการของเกมอย่างแม่นยำ เช่น ระยะทางรวมที่ต้องการ จากผู้เล่น, จำนวนการเร่งความเร็วและลดความเร็ว ต่อการแข่งขัน, และ ความถี่ในการวิ่งด้วยความเร็วสูงและการวิ่งสปรินต์ จากนั้นพวกเขาจะออกแบบโปรแกรมฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาความสามารถของผู้เล่นให้ตรงตามความต้องการเหล่านั้นอย่างเป็นระบบ

อโมริมและไมนูต้องมีการพูดคุยที่ยากลำบาก

ตัวเลขสถิติทางกายภาพจะเพียงพอที่จะซื้อความไว้ใจจากอโมริมหรือไม่? สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การพูดคุยโดยตรงระหว่างผู้เล่นและผู้จัดการทีม จะเป็นกุญแจสำคัญในการที่เขาจะกลับเข้าสู่ทีม

บราวน์กล่าวว่า: “ผมหวังว่าเขาจะคุยกับผู้จัดการทีมเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม [เกี่ยวกับ] สิ่งที่เขาต้องการจากเขาและสิ่งที่เขาต้องการมากขึ้น เพราะค็อบบี้เป็นเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์และจำเป็นต้องได้เล่นมากกว่านี้ และหวังว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้”

“ด้านความฟิต คุณสามารถดีขึ้นได้เสมอ คุณสามารถฝึกฝนเพื่อให้รู้สึกเฉียบคมในสนามมากขึ้น แต่เกมของค็อบบี้คือทั้งหมดที่เกี่ยวกับตอนที่เขามีบอล และสิ่งที่เขาสามารถทำกับมันได้ ถ้าเขาฟิตขึ้น นั่นจะทำให้เขายิ่งเก่งขึ้นไปอีกในสนาม“

“มันยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ ดังนั้นคุณก็ได้แต่หวังว่ามันจะเกิดขึ้น เพราะแฟน ๆ ทุกคนอยากเห็นเขาเล่น”